วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การเลือกซื้อโปรเจคเตอร์(Projector)


www.projectorok.com และ www.projectorth.com



หลักๆ เลยนะคะในการเลือกซื้อโปรเจคเตอร์
  1. ความต้องการขององค์กร.
  2. ขนาดของห้อง
  3. การใช้งานหลักๆต่อวัน วันละกี่ชั่วโมง.
  4. ดีไซน์ของโปรเจคเตอร์
  5. รุ่น
  6. เทคโนโลยีของโปรเจคเตอร์
  7. งบประมาณ และ จำนวนที่ต้องการซื้อ
    ให้ดูความจำเป็น ของการใช้งานว่าจะนำโปรเจคเตอร์มาใช้งานกับอะไร และมีอุปกรณ์อะไรบ้างที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับโปรเจ็กเตอร์เครื่องนี้ 


ระบบเสียง

เครื่องโปรเจคเตอร์บางรุ่นสามารถฟังเพลงหรือดูหนังได้ด้วย ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ใช้งานโปรเจคเตอร์เพื่อความบันเทิงในบ้าน และถ้าเครื่องโปรเจคเตอร์มีฟังก์ชันทางด้านเสียงมาด้วยจะทำให้ผู้ใช้งานลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการซื้อลำโพงอีกชุดหนึ่งมาเพิ่มลงไปได้ 

ระบบการซูมภาพ

การซูมภาพเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของเครื่องโปรเจคเตอร์ที่จะให้เครื่องสามารถขยายภาพได้มากน้อยเพียงใด ถ้าสามารถเลือกเครื่องที่มีอัตราในการซูมได้มากๆ ยิ่งดี นอกจากนี้ เวลาเลือกซื้อก็ควรทดสอบระบบการซูมภาพด้วยว่า เมื่อซูมภาพเข้า-ออก ความคมชัดของภาพยอมรับได้หรือไม่ เพราะมีโปรเจคเตอร์โนเนมหลายยี่ห้อที่โฆษณาว่ามีระบบซูมภาพได้หลายเท่า แต่พอเอาเข้าจริงๆ กับทำได้ไม่ดีอย่างที่คิด

รีโมตไร้สาย

ให้ดูว่ารีโมตตัวนั้นสามารถทำหน้าเป็นพอยน์เตอร์หรือเมาส์ได้ด้วยหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ควรจะให้มีฟีเจอร์นี้ด้วย แต่ราคาอาจจะเพิ่มมาอีกนิดหน่อย หรือบางทีในเครื่องโปรเจคเตอร์รุ่นเล็กๆ อาจจะไม่มีฟีเจอร์นี้ก็ได้

ระบบ Picture in Picture

Picture in Picture เป็นระบบในการซ้อนภาพไว้ด้วยกัน ซึ่งระบบนี้คงจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่จะนำโปรเจคเตอร์มาใช้งานเพื่อความบันเทิง แต่จะเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานออฟฟิศหรือการนำเสนองานมากกว่า และระบบนี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อเครื่องโปรเจคเตอร์สามารถต่อแหล่งข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งแหล่ง

ระบบ Wireless

เนื่องจากปัจจุบันระบบไวร์เลส มีมาใช้งานกันอย่างกว้างขวางและตัวเทคโนโลยีของเครื่องโปรเจคเตอร์เองก็สามารถทำได้อยู่เหมือนกัน โดยผู้ใช้งานสามารถนำเสนอผลงานจากที่ใดๆ ของห้องให้ออกสู่เครื่องโปรเจคเตอร์ได้โดยไม่ต้องต่อสายให้วุ่นวาย ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง แต่เครื่องที่สามารถใช้งานกับระบบไวร์เลส ได้นั้นยังมีไม่มากเท่าไร และราคาจะค่อนข้างสูงอยู่พอสมควร

 Keystone Correction
การปรับรูปสี่เหลี่ยมคางหมูเป็นฟีเจอร์ที่ใช้ปรับอัตราส่วนของภาพให้เหมาะสมในการแสดงผล ซึ่งจะสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง โปรเจคเตอร์ที่มีคุณภาพสูงหรือได้มาตรฐาน ซึ่งควรมีระบบปรับภาพสี่เหลี่ยมคางหมูที่ว่านี้ที่เชื่อถือและไว้วางใจได้ทุกครั้งที่ใช้งานด้วย

หลอดภาพ

เป็นส่วนที่มีความสำคัญที่สุดของโปรเจคเตอร์ เนื่องจากจะเป็นส่วนที่ฉายภาพออกไป และตัวหลอดก็จะมีอายุการใช้งานของมันอยู่โดยมีหน่วยเป็น ชั่วโมง โดยเราสามารถดูได้จากคู่มือของตัวเครื่องว่าสามารถใช้งานได้นานเท่าไร เวลาจะเลือกซื้อโปรเจคเตอร์มาใช้งาน แนะนำให้ดูจำนวนชั่วโมงของหลอดภาพนั้นเยอะๆ เข้าไว้จะได้ไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนอุปกรณ์และค่าบำรุงรักษามาก พร้อมกันนี้ให้สอบถามราคาหลอดจากผู้ขายด้วยว่าราคาเท่าไร ซึ่งให้คิดจากการใช้งานและจำนวนชั่วโมงแล้วก็ว่าเหมาะสมที่จะใช้งานหรือไม่และหลอดภาพรุ่นนั้นๆ มีจำหน่ายมากน้อยเพียงใด

น้ำหนัก

น้ำหนักของเครื่องจะมีผลอย่างมากหากคุณต้องใช้งานโปรเจคเตอร์แบบพกพา หรือหิ้วไปไหนมาไหนบ่อยๆ เพื่อที่จะนำเสนอผลงาน และจะมีผลมากขึ้นไปอีกสำหรับโปรเจคเตอร์แบบที่แขวนเพดาน เนื่องจากต้องคำนวณน้ำหนักและการรองรับของเพดานให้ดี มิฉะนั้นอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่เครื่องและบุคคลอื่นได้


นอกจากนี้แล้วโปรเจคเตอร์ยังสามารถแยกการใช้งานตามลักษณะของการใช้งานได้ด้วยโดยแบ่งเป็น

  • Portable 

เป็นโปรเจคเตอร์แบบพกพา ซึ่งถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปไหนมาไหนบ่อยๆ และมีที่ในการจัดเก็บไม่มากนักก็ควรจะหาโปรเจคเตอร์แบบนี้มาใช้งาน ซึ่งโปรเจคเตอร์แบบนี้น้ำหนักไม่ควรเกิน 1.9 กิโลกรัมและมีขนาดที่เล็กพอที่จะใส่กระเป๋าไปได้ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อมีขนาดที่เล็กลงก็จะทำให้ฟีเจอร์ใช้งานต่างๆ ลดลงไปด้วย

  • Office 

สำหรับโปรเจคเตอร์ที่ใช้งานในออฟฟิศก็มีให้เลือกใช้งานอยู่หลายแบบทั้งขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่และยังรวมไปถึงอุปกรณ์จำนวน Electronics Board ด้วย ซึ่งสามารถเลือกได้ตามขนาดของห้องที่ต้องการใช้งาน โดยควรมีค่าความสว่างในการใช้งานยู่ที่ 2000 ANSI lumens ขึ้นไป และมีความละเอียดในระดับ 1024 x 768 พิกเซล หรือ XGA แต่ไม่ควรต่ำกว่า 800 x 600 พิกเซล หรือ SVGA พร้อมกันนี้โปรเจคเตอร์ที่ใช้งานในออฟฟิศให้ดูเรื่องของตัวติดเพดานด้วยว่าสามารถใช้งานร่วมกันได้หรือไม่ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เสริมการทำงานของเครื่องได้และไม่เกะกะในการนำเสนอผลงาน
  • Education 
สำหรับงานด้านการเรียนการสอนจะมีการใช้งานที่แตกต่างจากธุรกิจและควรเป็นเครื่องที่มีฟีเจอร์ในการใช้งานง่ายๆ และควรมีระยะในการถ่ายภาพที่ไม่ไกลมากนัก เนื่องจากตัวเครื่องจะต้องวางไว้ที่หน้าชั้นเรียน ซึ่งถ้าระยะการทำงานไกลก็ต้องเสียพื้นที่ในการวางไว้ไกลขึ้น และในขณะเดียวกันน่าจะมีการใช้งานร่วมกับ Visualizer เพื่อให้สามารถนำอุปกรณ์ที่เป็นสื่อการสอนวางลงแล้วฉายภาพออกไปได้ด้วย
  • Conference Room 
ถือว่าเป็นโปรเจคเตอร์สุดยอดที่สุด เนื่องจากสามารถใช้ในการประชุมสัมมนาหรือห้องเสนอผลงานใหญ่ๆ ได้ ซึ่งจะต้องเป็นโปรเจคเตอร์ที่ไม่มีความซับซ้อนในการใช้งาน เพื่อให้สามารถควบคุมการทำงานได้ง่าย ตัวเครื่องต้องออกแบบให้ดูดีสักหน่อยเพราะต้องมาโชว์ต่อหน้าสารณชนเป็นจำนวนมาก ส่วนในเรื่องของความสว่างก็ไม่ควรต่ำกว่า 3500 ANSI lumens และความละเอียดในระดับ WXGA พร้อมกันนี้อาจจะดูในเรื่องของการติดตั้งกับเพดานได้ด้วยถ้าห้องนั้นๆ เป็นห้องที่ใช้ทำกิจกรรมแบบถาวรประจำๆ ให้ติดตั้งไว้เป็นการถาวรได้เลยจะดีกว่า
  • Wireless Projector
โปรเจคเตอร์แบบนี้ไม่เหมาะสำหรับที่จะใช้ในการชมภาพยนตร์เนื่องจากถ้ามีการใช้งานสัญญาณเป็นจำนวนมากจะทำให้เกิดความหน่วงและภาพยนตร์จะกระตุกได้ โดยถ้าต้องการใช้งานให้สามารถดูว่าสามารถต่ออุปกรณ์ไร้สายเพิ่มได้หรือไม่

-ขอบคุณบทความจาก-
it-guides

hardware.arip
projector.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น